Mashup.in.th

เทคนิคการใช้งาน VOIP

ข้อดีของบริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต(VoIP) นั้นคือการที่ผู้ให้บริการสามารถให้บริการโดยการเก็บค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลหรือระหว่างประเทศเป็นแบบเหมาจ่ายรายเดือนได้ ผู้ใช้สามารถสนทนานานเท่าไหร่ก็ได้โดยจ่ายแค่อัตราเดียวเท่านั้น บริการแบบนี้ทางผู้ให้บริการโทรศัพท์ปกตินั้นยังไม่สามารถให้บริการได้แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความน่าเชื่อถือของบริการ

อย่างไรก็ดีโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นก็มีข้อเสียเช่นกันนั่นคือ ปัญหาเล็กๆน้อยๆจากการใช้งานพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้มากมายทุกเมื่อเช่น เสียงตะกุกตะกัก เสียงสะท้อน และปัญหาสายหลุดบ่อย เป็นต้น

ถ้าคุณมีอุปกรณ์สำหรับใช้งานโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตที่ประกอบไปด้วย ตัวแปลงสัญญาณ VoIP (VoIP adapter) ที่ทำการเชื่อมต่อระหว่างโมเ็ด็มบอร์ดแบนด์แบนด์กับเครื่องโทรศัพท์ทั่วไปอยู่ล่ะก็ เทคนิคต่างๆในบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถลดปัญหาที่เกิดจากการใช้งานโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้

ฮาร์ดแวร์คือสิ่งสำคัญ

หลีกเลี่ยงการวางฮาร์ดแวร์ต่างๆของคุณเอาไว้บนทางเดินหรือที่อื่นๆที่อาจเป็นอันตรายจากสัตว์เลี้ยง, เด็กๆ, หรือแม้กระทั่งตัวคุณเองได้ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักเบา ผู้เขียนเองเคยเดินชนอุปกรณ์เหล่านั้นครั้งนึงหลังจากนั้นเวลาใช้งานโทรศัพท์ก็ทำให้สายหลุดบ่อยมาก

[quote_box author=”” profession=””]

VoIP ของคุณเร็วแค่ไหน? ทดสอบได้ง่ายๆผ่านทางเว็บไซด์ www.TestYourVoIP.com

[/quote_box]

ในการติดตั้งอุปกรณ์ VoIP นั้นต้องใช้สายไฟอย่างน้อย 1-2 เส้น, สายโทรศัพท์, และสายแลนสำหรับต่ออินเทอร์เน็ต ในบทความที่ชื่อ “Conquering Multimedia Cable Clutter” (find.pcworld.com/52120) ซึ่ง Stan Miastkowski ได้เขียนเอาไว้เมื่อเดือนเมษายน 2547 นั้นได้อธิบายถึงแผนการในการจัดเรียงสายเหล่านั้นให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าอุปกรณ์โทรศัพท์ VoIP ของคุณจะต้องถูกเชื่อมต่อให้ติดกับอุปกรณ์อย่างโมเด็มหรือเร้าเตอร์ตลอดเวลา ทำให้การเลือกซื้อโทรศัพท์ VoIP แบบไร้สายนั้นจะทำให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า เว้นแต่ว่าุคุณต้องการใช้มันแทนโทรศัพท์ปกติเลย หรือใช้เป็นเครื่องสำรองนอกเหนือจากการใช้งานโทรศัพท์ปกติเท่านั้น

กำจัดจุดอ่อนของการโทร

ในการใช้งานนั้นถ้าคุณใช้ในช่วงเวลาที่โชคดีจริงๆเสียงสนทนาที่คุณได้ยินจะชัดเจนมากเป็นพิเศษ แต่ในบางคราวคุณอาจจะต้องทนสนทนาไปพร้อมๆกับเสียงสะท้อนของคุณเอง(เนื่องจากความหนาแน่นในการใช้งานของเครือข่าย VoIP) เมื่อมีปัญหานี้เกิดขึ้นผู้เขียนแนะนำให้วางสายแล้วรอสักครู่ ก่อนที่จะลองโทรใหม่อีกครั้ง

ถ้าคุณยังเจอปัญหาต่างๆมากกว่านั้นบ่อยๆล่ะก็ อย่าแปลกใจที่ทางผู้ให้บริการ VoIP จะโยนความผิดนี้ไปให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก่อนที่คุณจะเชื่อคำพูดนั้นลองทำการทดสอบต่างๆหลายๆวิธี เพื่อพิสูจน์ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณจริงๆหรือไม่ ผู้เขียนขอแนะนำเว็บไซด์ TestYourVoIP.com ซึ่งมีโปรแกรมที่ทำงานผ่านเว็บสำหรับจำลองการทำงานของ VoIP เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถใช้มันทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ของคุณพร้อมทั้งวัดประสิทธิภาพในการทำงานได้(รูปที่ 1)

ถ้าการเชื่อมต่อเร้าเตอร์ของคุณค่อนข้างช้าให้ลองทำการตรวจสอบเว็บไซด์ของผู้ผลิตนั้นๆ ว่าคุณได้ทำการอับเกรด Firmware ของคุณเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้วหรือยังถ้าใช่ก็ลองพิจารณาถึงการเปลี่ยนโมเด็มหรือเร้าเตอร์เป็นรุ่นอื่นได้แล้วครับ

ถ้าอุปกรณ์ทุกอย่างของคุณเป็นปกติดีอยู่แล้วแต่ว่าคุณยังประสบปัญหาจากการใช้งานในระดับที่รับไม่ได้แล้วล่ะก็ให้ทำการติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอความช่วยเหลือ

อีกปัญหาที่พบก็คือเวลาที่เกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าแล้วล่ะก็โทรศัพท์ VoIP ของคุณก็จะใช้ไม่ได้ไปด้วยหรือถ้าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเกิดการผิดพลาดทำให้ใช้ VoIP ไม่ได้ ถ้าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นก็ให้ลองติดต่อผู้ให้บริการของคุณเพื่อขอเปิดใช้บริการ Call forwarding เพื่อทำการโอนสายไปยังโทรศัำำพท์ปกติหรือมือถือของคุณ จะได้ไม่พลาดการรับสายที่โทรเข้ามา

สุดท้ายแล้วถ้าคุณไม่สามารถทนใช้บริการ VoIP ได้อีกและต้องการจะยกเลิกการใช้งาน ให้อ่านข้อตกลงในการยกเลิกการใช้งานให้ละเอียดเช่น การเสียการปรับเมื่อเลิกใช้ หรือ การคืนเงินในกรณีที่อยู่ในช่วงรับประกันความพอใจ เป็นต้น และเมื่อคุณมองหาผู้ให้บริการรายใหม่ ให้ลองอ่านความเห็นที่เคยมีผู้ใช้โพสไว้แล้วที่ BroadbandReports.com

Exit mobile version